ขั้นตอนการขอรับบุตรบุญธรรมในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 : การพิจารณาคุณสมบัติของผู้ขอรับบุตรบุญธรรม
ผู้ขอรับบุตรบุญธรรมจะต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ. 2522 ดังนี้
- มีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์
- มีสุขภาพกายและจิตสมบูรณ์
- มีรายได้หรือมีทรัพย์สินเพียงพอที่จะเลี้ยงดูบุตรบุญธรรม
- มีความสามารถในการอุปการะเลี้ยงดูบุตรบุญธรรม
- มีสถานะภาพสมรสหรือโสด
หากผู้ขอรับบุตรบุญธรรมมีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว จะต้องยื่นคำร้องขอรับบุตรบุญธรรมต่อคณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม โดยสามารถยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหรือสำนักงานเขต/สำนักงานเทศบาลที่มีเขตอำนาจในพื้นที่ที่ประสงค์จะรับบุตรบุญธรรม
ขั้นตอนที่ 2 : การพิจารณาอนุมัติการขอรับบุตรบุญธรรม
คณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมจะพิจารณาคำร้องขอรับบุตรบุญธรรม โดยพิจารณาจากคุณสมบัติของผู้ขอรับบุตรบุญธรรม สภาพความเป็นอยู่ของผู้ขอรับบุตรบุญธรรม และประโยชน์ของบุตรบุญธรรม
หากคณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมอนุมัติการขอรับบุตรบุญธรรม คณะกรรมการฯ จะออกหนังสือแจ้งการอนุมัติการขอรับบุตรบุญธรรมให้แก่ผู้ขอรับบุตรบุญธรรม
เอกสารประกอบคำร้องขอรับบุตรบุญธรรม
ผู้ขอรับบุตรบุญธรรมจะต้องแนบเอกสารประกอบคำร้องขอรับบุตรบุญธรรม ดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางของผู้ขอรับบุตรบุญธรรม
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขอรับบุตรบุญธรรม
- สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบรับรองการสมรสของผู้ขอรับบุตรบุญธรรม
- สำเนาทะเบียนหย่าของผู้ขอรับบุตรบุญธรรม (ถ้ามี)
- หลักฐานแสดงรายได้หรือทรัพย์สินของผู้ขอรับบุตรบุญธรรม
- ประวัติสุขภาพของผู้ขอรับบุตรบุญธรรม
- ประวัติสุขภาพของบุตรบุญธรรม
ระยะเวลาในการดำเนินการ
ระยะเวลาในการดำเนินการขอรับบุตรบุญธรรม ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม โดยเฉลี่ยประมาณ 6 เดือน
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมในการขอรับบุตรบุญธรรม อยู่ที่ 200 บาท
ข้อควรระวังในการขอรับบุตรบุญธรรม
ผู้ขอรับบุตรบุญธรรมควรศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการรับบุตรบุญธรรมอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการดำเนินการขอรับบุตรบุญธรรม