ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่มีผู้เสียชีวิต กฎหมายจะกำหนดให้เจ้าของรถทุกคันต้องทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ซึ่งจะคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยมีวงเงินคุ้มครองดังนี้
- ค่ารักษาพยาบาล ไม่เกิน 500,000 บาท
- ค่าปลงศพ ไม่เกิน 35,000 บาท
- ค่าสินไหมทดแทนกรณีสูญเสียอวัยวะ ไม่เกิน 300,000 บาทต่ออวัยวะ
- ค่าสินไหมทดแทนกรณีทุพพลภาพ ไม่เกิน 300,000 บาทต่ออวัยวะ
ในคดีอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิต หากผู้ขับขี่มีการทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้ บริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้ประสบภัย โดยผู้ประสบภัยสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ดังนี้
- ยื่นคำร้องขอรับค่าเสียหาย ไปยังบริษัทประกันภัย โดยสามารถยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานใหญ่หรือสาขาของบริษัทประกันภัย
- รวบรวมเอกสารหลักฐาน ประกอบคำร้อง เช่น สำเนาใบขับขี่ สำเนาทะเบียนรถ สำเนาใบมรณะบัตร ใบรับรองแพทย์ เป็นต้น
- รอการพิจารณาจากบริษัทประกันภัย บริษัทประกันภัยจะพิจารณาคำร้องและจ่ายค่าเสียหายให้กับผู้ประสบภัยภายใน 30 วัน
หากผู้ขับขี่ไม่มีการทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้ ผู้ประสบภัยสามารถดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายได้ดังนี้
- แจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุ
- ฟ้องร้องคดีแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ขับขี่
ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยควรปรึกษากับทนายความเพื่อขอคำแนะนำในการดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหาย
นอกจากนี้ ในกรณีอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิต ตำรวจจะทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หากพบว่าผู้ขับขี่กระทำการโดยประมาทหรือเจตนาก่อให้เกิดอันตราย ผู้ขับขี่อาจถูกดำเนินคดีอาญาฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งโทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท