การเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิของผู้รับจำนองในกรณีลูกหนี้ขาดส่งดอกเบี้ยเป็นเวลา 5 ปี สามารถทำได้โดยการฟ้องคดีต่อศาลเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้เอาทรัพย์จำนองหลุดมาเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับจำนอง โดยผู้รับจำนองจะต้องแสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลว่าราคาทรัพย์สินนั้นน้อยกว่าจำนวนเงินอันค้างชำระ
การเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดนี้มีข้อดีคือ ผู้รับจำนองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขายทอดตลาดทรัพย์จำนอง และไม่เสี่ยงที่จะได้เงินจากการขายทอดตลาดน้อยกว่าจำนวนเงินอันค้างชำระ แต่มีข้อเสียคือ ผู้รับจำนองจะต้องเสียภาษีอากรในการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์จำนองหลุด
ขั้นตอนการเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดมีดังนี้
- ผู้รับจำนองต้องส่งหนังสือบอกกล่าวไปยังลูกหนี้ก่อนว่าให้ชำระหนี้ภายในเวลาอันสมควร ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 60 วัน นับแต่วันที่ลูกหนี้ได้รับคำบอกกล่าวนั้น
- ถ้าลูกหนี้ละเลยเสียไม่ปฏิบัติตามคำบอกกล่าว ผู้รับจำนองจะฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้พิพากษาสั่งให้เอาทรัพย์จำนองหลุดมาเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับจำนอง
- เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว ผู้รับจำนองจะต้องดำเนินการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์จำนองหลุดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ในกรณีที่ผู้รับจำนองสามารถเอาทรัพย์จำนองหลุดมาเป็นกรรมสิทธิ์ได้สำเร็จ ทรัพย์จำนองหลุดนั้นก็จะกลายเป็นทรัพย์สินของผู้รับจำนองโดยสมบูรณ์ ผู้รับจำนองสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพย์จำนองหลุดได้ตามต้องการ ตัวอย่างเช่น นำไปขาย นำไปให้เช่า หรือนำไปใช้ประโยชน์ในกิจการของตนเอง
ตัวอย่างคดีเกี่ยวกับการเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดมีดังนี้
- คดีหมายเลขดำที่ 2472/2565 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งเอาที่ดินซึ่งจำนองเป็นประกันหนี้ของนาย ก. หลุดมาเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคารพาณิชย์นั้น โดยเห็นว่านาย ก. ขาดส่งดอกเบี้ยแก่ธนาคารพาณิชย์เป็นเวลา 5 ปี และธนาคารพาณิชย์ได้แสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลว่าราคาที่ดินนั้นน้อยกว่าจำนวนเงินอันค้างชำระ
- คดีหมายเลขดำที่ 1234/2566 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้บริษัทจำกัดแห่งหนึ่งเอารถยนต์ซึ่งจำนองเป็นประกันหนี้ของนาง ข. หลุดมาเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทจำกัดนั้น โดยเห็นว่านาง ข. ขาดส่งค่างวดผ่อนชำระแก่บริษัทจำกัดเป็นเวลา 5 ปี และบริษัทจำกัดได้แสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลว่าราคารถยนต์นั้นน้อยกว่าจำนวนเงินอันค้างชำระ