ถูกหลอกให้เช่าซื้อรถยนต์ และจักรยานยนต์

แก้ไขล่าสุด วันที่ 11th October, 2023 at 12:27 pm

Link ที่เกี่ยวข้อง : ข้อกฎหมาย ถูกหลอกให้เช่าซื้อรถยนต์ และจักรยานยนต์

คดีฉ้อโกง ถูกหลอกให้เช่าซื้อรถยนต์ และจักรยานยนต์ เป็นคดีที่พบได้บ่อยในประเทศไทย โดยผู้เสียหายมักถูกหลอกลวงโดยบุคคลที่อ้างตัวเป็นผู้แทนของบริษัทเช่าซื้อรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ โดยหลอกให้ผู้เสียหายเซ็นสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ โดยอ้างว่าตนเองจะเป็นผู้ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อแทน แต่แท้จริงแล้วผู้หลอกลวงไม่มีเจตนาที่จะผ่อนชำระค่าเช่าซื้อแต่อย่างใด

ความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 นั้น หมายถึง การหลอกลวงผู้อื่นด้วยประการใด ๆ ให้หลงเชื่อในข้อความอันเป็นเท็จ หรือให้เข้าใจผิดในข้อความจริง ซึ่งอาจทำให้ผู้ถูกหลอกลวงทำความเสียหายแก่ตนเองหรือผู้อื่นได้

ในกรณีของคดีฉ้อโกง ถูกหลอกให้เช่าซื้อรถยนต์ และจักรยานยนต์ ผู้หลอกลวงมักจะหลอกลวงผู้เสียหายด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

  • อ้างว่าผู้เสียหายมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเช่าซื้อรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ได้
  • อ้างว่าผู้เสียหายจะได้รับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ในราคาพิเศษ
  • อ้างว่าผู้เสียหายจะได้รับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์โดยไม่มีดอกเบี้ย
  • อ้างว่าผู้เสียหายจะได้รับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์โดยไม่ต้องชำระเงินดาวน์

เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อและเซ็นสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์แล้ว ผู้หลอกลวงก็จะนำรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ไปขายต่อให้กับผู้อื่น โดยที่ผู้เสียหายต้องรับภาระในการผ่อนชำระค่าเช่าซื้อต่อไป ซึ่งอาจทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

หากผู้เสียหายถูกหลอกให้เช่าซื้อรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ควรดำเนินการดังนี้

  • รีบแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับผู้หลอกลวง
  • รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี เช่น สัญญาเช่าซื้อรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ เอกสารการผ่อนชำระค่าเช่าซื้อ เป็นต้น
  • ติดต่อบริษัทเช่าซื้อรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ เพื่อขอยกเลิกสัญญาเช่าซื้อ

หากผู้เสียหายสามารถพิสูจน์ได้ว่าตนเองถูกหลอกลวง ผู้หลอกลวงอาจต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้หลอกลวงได้อีกด้วย โดยค่าเสียหายอาจรวมถึงค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ ค่าเสียหายจากการเสียโอกาสในการใช้ประโยชน์จากรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ และค่าเสียหายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ผู้เสียหายควรปรึกษาทนายความเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหาย

Share on: