น้ำท่วมปอด และไตเสื่อมเหลือ 5% เป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน
น้ำท่วมปอด เกิดจากการที่มีของเหลวสะสมในถุงลมปอด ทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจลำบาก เหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก ไอ อาจมีไข้และเหงื่อออกร่วมด้วย
ไตเสื่อมเหลือ 5% หมายถึงไตไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ไม่สามารถกรองของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายได้ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการบวมน้ำ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะน้อยลง หรือปัสสาวะเป็นฟอง
สาเหตุของน้ำท่วมปอดและไตเสื่อมเหลือ 5% อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น
- โรคหัวใจ หัวใจล้มเหลวทำให้เลือดคั่งในปอด และไตทำงานหนักจนเสื่อมลง
- โรคปอด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงปอดมากขึ้น ทำให้หัวใจล้มเหลวและเกิดน้ำท่วมปอดได้
- โรคไต โรคไตวายเรื้อรังทำให้ไตไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมปอดและไตเสื่อมลงได้
- ภาวะความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตสูงทำให้หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น ทำให้หัวใจล้มเหลวและเกิดน้ำท่วมปอดได้
- ภาวะติดเชื้อ การติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด การติดเชื้อในปอด การติดเชื้อในไต อาจทำให้ไตเสื่อมลงได้
การรักษาน้ำท่วมปอดและไตเสื่อมเหลือ 5% ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ โดยแพทย์อาจรักษาด้วยยาหรือการผ่าตัด
การรักษาน้ำท่วมปอด
- ยา แพทย์อาจให้ยาขับปัสสาวะเพื่อลดการสะสมของของเหลวในปอด
- การผ่าตัด แพทย์อาจผ่าตัดเพื่อระบายของเหลวออกจากปอด
การรักษาไตเสื่อมเหลือ 5%
- การฟอกไต เป็นการฟอกเลือดเพื่อกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย
- การปลูกถ่ายไต เป็นการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนไตใหม่
หากมีอาการน้ำท่วมปอด และไตเสื่อมเหลือ 5% ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต