ปัญหาการซื้อบ้านจัดสรรและการแจ้งซ่อมจนเลยสัญญารับประกัน เป็นหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อย โดยผู้ซื้อบ้านมักแจ้งซ่อมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับบ้านหลังซื้อไปแล้ว แต่การซ่อมแซมไม่เสร็จสิ้นหรือล่าช้า จนเลยกำหนดระยะเวลารับประกัน ทำให้ผู้ซื้อบ้านต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเอง
ปัญหาดังกล่าวอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น
- ผู้พัฒนาโครงการอาจไม่มีความพร้อมในการรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังการขาย
- ผู้พัฒนาโครงการอาจไม่มีช่างฝีมือหรือผู้เชี่ยวชาญเพียงพอในการซ่อมแซมปัญหาที่เกิดขึ้น
- ผู้พัฒนาโครงการอาจละเลยการติดตามงานซ่อมแซม
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว ผู้ซื้อบ้านควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับระยะเวลารับประกันของบ้านให้ดี โดยระยะเวลารับประกันบ้านจัดสรรโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 1-2 ปี ครอบคลุมปัญหาต่างๆ เช่น โครงสร้าง หลังคา ผนัง พื้น ประตู หน้าต่าง ระบบไฟฟ้า ระบบประปา เป็นต้น
หากพบปัญหาใดๆ กับบ้านหลังซื้อไปแล้ว ควรแจ้งซ่อมไปยังผู้พัฒนาโครงการโดยเร็วที่สุด เพื่อให้การซ่อมแซมเสร็จสิ้นภายในระยะเวลารับประกัน
ในกรณีที่การซ่อมแซมล่าช้าหรือเลยกำหนดระยะเวลารับประกัน ผู้ซื้อบ้านสามารถดำเนินการดังนี้
- แจ้งเตือนผู้พัฒนาโครงการให้เร่งดำเนินการซ่อมแซม
- ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือศูนย์ดำรงธรรม
- ฟ้องร้องผู้พัฒนาโครงการต่อศาล
ทั้งนี้ ผู้ซื้อบ้านควรเก็บหลักฐานต่างๆ ไว้เป็นหลักฐานประกอบการแจ้งซ่อมหรือร้องเรียน เช่น ใบแจ้งซ่อม ใบรับแจ้งซ่อม ใบเสร็จรับเงินค่าซ่อมแซม เป็นต้น
ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ซื้อบ้านที่พบปัญหาการแจ้งซ่อมบ้านจนเลยสัญญารับประกัน
- ควรแจ้งซ่อมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับบ้านโดยเร็วที่สุด
- ควรเก็บหลักฐานต่างๆ ไว้เป็นหลักฐานประกอบการแจ้งซ่อม
- ควรติดต่อผู้พัฒนาโครงการโดยตรงเพื่อแจ้งซ่อม
- ควรติดตามความคืบหน้าในการซ่อมแซมอย่างสม่ำเสมอ
- ควรปรึกษาทนายความหากต้องการดำเนินการทางกฎหมาย