มีอาการเจ็บราวนมด้านซ้ายเกิดจากอะไร

อาการเจ็บราวนมด้านซ้อยอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ ดังนี้

  • โรคหัวใจ โรคหัวใจเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการเจ็บหน้าอก โดยอาการเจ็บอาจมีลักษณะเป็นจุกแน่นหรือบีบอัดที่หน้าอก บางครั้งอาจร้าวไปที่ไหล่ แขน คอ หรือกราม อาการมักเกิดขึ้นขณะออกกำลังกายหรือออกแรงหนัก และอาจมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น หายใจลำบาก เหงื่อออก คลื่นไส้ อาเจียน
  • โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจ เกิดจากการที่หลอดเลือดแดงที่นำเลือดไปเลี้ยงหัวใจตีบแคบลง ทำให้หัวใจได้รับเลือดและออกซิเจนไม่เพียงพอ อาการเจ็บอาจมีลักษณะคล้ายกับโรคหัวใจ แต่จะมีอาการรุนแรงขึ้นเมื่อออกกำลังกายหรือออกแรงหนัก
  • โรคกรดไหลย้อน โรคกรดไหลย้อนเป็นภาวะที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก บางครั้งอาจร้าวไปที่ราวนมด้านซ้อย
  • กล้ามเนื้อหรือกระดูกอักเสบ กล้ามเนื้อหรือกระดูกบริเวณราวนมด้านซ้อยอาจอักเสบได้ ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดได้
  • โรคเกี่ยวกับปอด โรคเกี่ยวกับปอด เช่น ถุงลมโป่งพอง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) อาจทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกได้
  • โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ เช่น ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน อาจทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกได้
  • โรคเกี่ยวกับตับ โรคเกี่ยวกับตับ เช่น โรคตับแข็ง อาจทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกได้
  • โรคเกี่ยวกับไต โรคเกี่ยวกับไต เช่น โรคไตวายเรื้อรัง อาจทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกได้

หากมีอาการเจ็บราวนมด้านซ้อย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม แพทย์อาจสั่งตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เป็นต้น

การรักษาอาการเจ็บราวนมด้านซ้อยขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ โดยหากเกิดจากโรคหัวใจ แพทย์อาจรักษาด้วยยาหรือการผ่าตัด

หากเกิดจากโรคอื่นๆ แพทย์อาจรักษาตามสาเหตุนั้นๆ เช่น หากเกิดจากโรคกรดไหลย้อน แพทย์อาจรักษาด้วยยาลดกรด หากเกิดจากกล้ามเนื้อหรือกระดูกอักเสบ แพทย์อาจรักษาด้วยยาแก้ปวดหรือกายภาพบำบัด

นอกจากการรักษาตามสาเหตุแล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ที่อาจช่วยบรรเทาอาการเจ็บราวนมด้านซ้อยได้ เช่น

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ลดน้ำหนักหากอ้วน
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

หากมีอาการเจ็บราวนมด้านซ้อย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงได้

Share on: