แก้ไขล่าสุด วันที่ 14th October, 2023 at 12:14 pm
ประกันสังคม มาตรา 33
ประกันสังคม มาตรา 33 เป็นประกันสังคมภาคบังคับสำหรับลูกจ้างทั่วไป โดยนายจ้างมีหน้าที่นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมให้กับลูกจ้างเป็นประจำทุกเดือน โดยอัตราเงินสมทบแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
- นายจ้าง 5% ของค่าจ้าง
- ลูกจ้าง 5% ของค่าจ้าง
ลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ดังนี้
- การรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลเครือข่ายประกันสังคม
- เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ
- เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีเสียชีวิต
- เงินสงเคราะห์กรณีว่างงาน
- เงินสงเคราะห์บุตร
- เงินฌาปนกิจสงเคราะห์
ประกันสังคม มาตรา 39
ประกันสังคม มาตรา 39 เป็นประกันสังคมภาคสมัครใจสำหรับผู้ที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และออกจากงานมาแล้ว แต่ประสงค์จะสมัครเป็นผู้ประกันตนต่อ โดยผู้ประกันตนสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ได้ภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง
อัตราเงินสมทบสำหรับประกันสังคมมาตรา 39 แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
- ผู้ประกันตน 9% ของเงินสมทบ
- กองทุนประกันสังคม 9% ของเงินสมทบ
ผู้ประกันตนมาตรา 39 จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่นเดียวกับผู้ประกันตนมาตรา 33 ยกเว้นสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน
ความแตกต่างระหว่างประกันสังคม มาตรา 33 และ มาตรา 39
ความแตกต่างระหว่างประกันสังคม มาตรา 33 และ มาตรา 39 มีดังนี้
ลักษณะ | ประกันสังคม มาตรา 33 | ประกันสังคม มาตรา 39 |
---|---|---|
ลักษณะ | ประกันสังคมภาคบังคับ | ประกันสังคมภาคสมัครใจ |
ผู้ประกันตน | ลูกจ้างทั่วไป | ผู้ที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และออกจากงานมาแล้ว |
อัตราเงินสมทบ | นายจ้าง 5% ลูกจ้าง 5% | ผู้ประกันตน 9% กองทุนประกันสังคม 9% |
สิทธิประโยชน์ | การรักษาพยาบาล เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีเสียชีวิต เงินสงเคราะห์กรณีว่างงาน เงินสงเคราะห์บุตร เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ | การรักษาพยาบาล เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีเสียชีวิต เงินสงเคราะห์บุตร เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ |
ระยะเวลาคุ้มครอง | ตลอดระยะเวลาที่ทำงาน | ตลอดระยะเวลาที่สมัครใจ |