ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะได้รับสิทธิประโยชน์หลังเกษียณ ดังนี้
- เงินบำเหน็จชราภาพ กรณีผู้ประกันตนชำระเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบของผู้ประกันตนและส่วนของนายจ้างที่จ่ายเงินสมทบให้กับสำนักงานประกันสังคม เพื่อจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และผลประโยชน์ตอบแทนประจำปี
- เงินบำนาญชราภาพ กรณีผู้ประกันตนชำระเงินสมทบครบ 180 เดือน จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนตลอดชีวิต คิดเป็นอัตราร้อยละ 20 ของเงินเฉลี่ยของฐานเงินสมทบ 36 เดือนสุดท้ายก่อนออกจากงาน
- เงินสงเคราะห์กรณีชราภาพ กรณีผู้ประกันตนชำระเงินสมทบครบ 180 เดือน แต่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพไม่ครบ 12 เดือน จะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีชราภาพเท่ากับจำนวนเงินบำเหน็จชราภาพที่ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับ แต่ไม่น้อยกว่า 12 เดือน
ผู้ประกันตนสามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์หลังเกษียณได้เมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน โดยยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพกับสำนักงานประกันสังคมที่ตนเองขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน เอกสารประกอบการยื่นคำขอ ได้แก่
- บัตรประจำตัวประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
- หนังสือรับรองการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
- หลักฐานการชำระเงินสมทบ
- หลักฐานอื่นๆ ที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิประโยชน์หลังเกษียณของตนได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม หรือติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานประกันสังคมสาขาที่ตนเองขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน