ในกรณีที่ผู้ค้ำประกันเงินกู้ร่วมโดนยึดทรัพย์ แต่ไม่มีทรัพย์ให้ยึด แนวทางการแก้ไขปัญหามีดังนี้
- เจรจากับเจ้าหนี้
ผู้ค้ำประกันควรเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน เช่น การขอผ่อนชำระหนี้แทนลูกหนี้ หรือการขอขยายระยะเวลาชำระหนี้ เป็นต้น หากเจ้าหนี้ยินยอม ผู้ค้ำประกันก็จะไม่ต้องถูกบังคับคดี
- ยื่นคำร้องขอผ่อนผันการบังคับคดี
ผู้ค้ำประกันสามารถยื่นคำร้องขอผ่อนผันการบังคับคดีต่อศาล โดยศาลจะพิจารณาจากเหตุและความจำเป็นของผู้ค้ำประกัน เช่น รายได้ไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ สภาพคล่องทางการเงินไม่เพียงพอ เป็นต้น หากศาลอนุมัติคำร้อง ผู้ค้ำประกันก็จะไม่ถูกบังคับคดีชั่วคราว
- ยื่นคำร้องขอชำระหนี้เป็นรายเดือน
ผู้ค้ำประกันสามารถยื่นคำร้องขอชำระหนี้เป็นรายเดือนต่อเจ้าหนี้ โดยเจ้าหนี้อาจพิจารณาให้ตามความเหมาะสม หากเจ้าหนี้ยินยอม ผู้ค้ำประกันก็จะไม่ต้องถูกบังคับคดี
- ขายทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพื่อชำระหนี้
หากผู้ค้ำประกันมีทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพียงพอที่จะชำระหนี้ได้ ผู้ค้ำประกันสามารถขายทรัพย์สินดังกล่าวเพื่อชำระหนี้ได้ โดยผู้ค้ำประกันควรปรึกษากับทนายความเพื่อขอคำแนะนำในการขายทรัพย์สิน
- ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ
หากผู้ค้ำประกันไม่สามารถชำระหนี้ได้ ผู้ค้ำประกันสามารถยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาล โดยศาลจะพิจารณาจากสถานะทางการเงินของผู้ค้ำประกัน หากศาลอนุมัติคำร้อง ผู้ค้ำประกันจะได้รับโอกาสในการแก้ไขกิจการและชำระหนี้
ทั้งนี้ แนวทางการแก้ไขปัญหาข้างต้นเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นเท่านั้น ผู้ค้ำประกันควรปรึกษากับทนายความเพื่อขอคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ ผู้ค้ำประกันควรพิจารณาถึงความเสี่ยงในการค้ำประกันเงินกู้ร่วมให้ดีก่อนตัดสินใจค้ำประกัน เพราะหากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ ผู้ค้ำประกันก็อาจถูกบังคับคดีได้เช่นกัน