การขยายเขตไฟฟ้าของหมู่บ้านนั้นถือเป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้ชาวบ้านมีไฟฟ้าใช้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตประจำวันและการพัฒนาชุมชน อย่างไรก็ตาม การที่ต้องตัดต้นยาง 90 ต้น ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเช่นกัน เนื่องจากต้นยางเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย และเป็นแหล่งรายได้ของเกษตรกรจำนวนมาก
สำหรับผลกระทบของการตัดต้นยาง 90 ต้นนั้น เบื้องต้นอาจทำให้เกษตรกรที่ปลูกต้นยางในพื้นที่ดังกล่าวสูญเสียรายได้จากการขายยางพารา ขณะเดียวกัน การตัดต้นยางอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมในบริเวณนั้นด้วย เนื่องจากต้นยางช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจนให้กับโลก นอกจากนี้ ต้นยางยังช่วยป้องกันการกัดเซาะของดินและรักษาความชุ่มชื้นในดินอีกด้วย
ดังนั้น เพื่อให้การขยายเขตไฟฟ้าของหมู่บ้านเป็นไปอย่างเหมาะสมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาแนวทางต่างๆ ในการทดแทนต้นยางที่ตัดไป เช่น การปลูกไม้ยืนต้นชนิดอื่นๆ ในพื้นที่ดังกล่าว หรือการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการตัดต้นยาง
แนวทางการทดแทนต้นยางที่ตัดไปนั้น อาจทำได้ดังนี้
- การปลูกไม้ยืนต้นชนิดอื่นๆ ในพื้นที่ดังกล่าว ไม้ยืนต้นชนิดอื่นๆ ที่อาจปลูกทดแทนต้นยางได้ เช่น มะม่วง มะขาม ทุเรียน เงาะ เป็นต้น
- การให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการตัดต้นยาง ความช่วยเหลือด้านการเงินอาจรวมถึงการให้เงินชดเชยค่าต้นยางที่ตัดไป หรือการให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับการปลูกไม้ยืนต้นชนิดอื่นๆ ทดแทน
นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับความจำเป็นในการตัดต้นยางเพื่อขยายเขตไฟฟ้า เพื่อให้ประชาชนเข้าใจและยอมรับการดำเนินการดังกล่าว