ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia: BPH) คือ ภาวะที่ต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ผิดปกติ มักพบในผู้ชายอายุ 45 ปีขึ้นไป และยิ่งพบมากขึ้นตามอายุ สาเหตุของต่อมลูกหมากโตยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศชาย
ต่อมลูกหมากมีรูปร่างคล้ายลูกวอลนัท ตั้งอยู่ใต้กระเพาะปัสสาวะ ล้อมรอบท่อปัสสาวะส่วนต้น ต่อมลูกหมากมีหน้าที่สร้างสารที่เป็นของเหลวประมาณ 30% ของน้ำอสุจิ
เมื่อต่อมลูกหมากโตขึ้น จะทำให้ท่อปัสสาวะถูกกดทับ ทำให้ปัสสาวะไหลผ่านได้ลำบาก ส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ ดังนี้
- ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน
- ปัสสาวะออกช้า
- ปัสสาวะสะดุด หยุดๆ หยดๆ
- ปัสสาวะไม่พุ่ง
- ปัสสาวะไม่สุด
- ปัสสาวะเล็ดหลังปัสสาวะเสร็จ
- ปัสสาวะมีเลือดปน
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง
การรักษาต่อมลูกหมากโตขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยทั่วไปมี 2 วิธีหลักๆ คือ
- การรักษาด้วยยา ยารักษาต่อมลูกหมากโตมีหลายชนิด เช่น ยาลดฮอร์โมนเพศชาย ยาคลายกล้ามเนื้อเรียบในต่อมลูกหมาก
- การผ่าตัด การผ่าตัดต่อมลูกหมากมีหลายวิธี เช่น การผ่าตัดเปิดต่อมลูกหมาก การผ่าตัดด้วยคลื่นวิทยุ การผ่าตัดด้วยเลเซอร์
การรักษาต่อมลูกหมากโตอาจส่งผลข้างเคียงได้ เช่น อาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว ปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการรักษาต่อมลูกหมากโตอื่นๆ เช่น การใช้ยาสมุนไพร การรักษาด้วยการแพทย์ทางเลือก เป็นต้น แต่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนว่าการรักษาเหล่านี้มีประสิทธิภาพ
การป้องกันต่อมลูกหมากโตสามารถทำได้ดังนี้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ และคอเลสเตอรอลสูง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ไม่สูบบุหรี่
- ควบคุมน้ำหนัก
หากมีความเสี่ยงต่อโรคต่อมลูกหมากโต ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเป็นประจำ