อาการบวมและเจ็บบริเวณหลังเท้าทั้ง2ข้าง

อาการบวมและเจ็บบริเวณหลังเท้าทั้ง 2 ข้าง อาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ ดังนี้

  • โรคข้ออักเสบ โรคข้ออักเสบที่พบได้บ่อยบริเวณหลังเท้า ได้แก่ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน และโรคข้ออักเสบข้อเท้าอักเสบ โรคเหล่านี้อาจทำให้ข้อเท้าบวม ปวด แข็ง และเคลื่อนไหวได้ลำบาก
  • โรคเส้นประสาท โรคเส้นประสาทที่อาจทำให้มีอาการบวมและเจ็บบริเวณหลังเท้า ได้แก่ โรคเส้นประสาทอักเสบ โรคเบาหวาน และโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โรคเหล่านี้อาจทำให้รู้สึกชา อ่อนแรง หรือเสียการรับรู้ที่บริเวณหลังเท้า
  • การติดเชื้อ การติดเชื้อที่บริเวณหลังเท้า เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือไวรัส อาจทำให้หลังเท้าบวม แดง ปวด และร้อน
  • ภาวะหลอดเลือดอุดตัน ภาวะหลอดเลือดอุดตันอาจเกิดขึ้นได้ทั้งในหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดง ภาวะหลอดเลือดอุดตันที่ขาอาจทำให้ขาบวม แดง ปวด และร้อน

หากมีอาการบวมและเจ็บบริเวณหลังเท้าทั้ง 2 ข้าง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม

การรักษาอาการบวมและเจ็บบริเวณหลังเท้าทั้ง 2 ข้างขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ โดยทั่วไป แพทย์อาจแนะนำการรักษาดังนี้

  • ข้อเท้าพลิก การรักษาเบื้องต้นอาจรวมถึงการประคบเย็น การยกขาสูง และการรับประทานยาแก้ปวด ในกรณีที่ข้อเท้าพลิกรุนแรง อาจจำเป็นต้องใส่เฝือกหรือผ่าตัด
  • โรคข้ออักเสบ การรักษาโรคข้ออักเสบอาจรวมถึงการใช้ยา กายภาพบำบัด หรือการผ่าตัด
  • โรคเส้นประสาท การรักษาโรคเส้นประสาทอาจรวมถึงการใช้ยา กายภาพบำบัด หรือการผ่าตัด
  • การติดเชื้อ การรักษาการติดเชื้ออาจรวมถึงการใช้ยาปฏิชีวนะ
  • ภาวะหลอดเลือดอุดตัน การรักษาภาวะหลอดเลือดอุดตันอาจรวมถึงการใช้ยาละลายลิ่มเลือด การผ่าตัดใส่สายสวนเพื่อนำลิ่มเลือดออก หรือการผ่าตัดเปิดเส้นเลือดเพื่อขยายหลอดเลือด

นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจใช้วิธีอื่นๆ เพื่อบรรเทาอาการ เช่น การประคบเย็น การยกขาสูง การใช้ยาแก้ปวด และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

หากมีอาการบวมและเจ็บบริเวณหลังเท้าทั้ง 2 ข้าง ต่อไปนี้เป็นวิธีบรรเทาอาการเบื้องต้นที่สามารถทำได้เองที่บ้าน

  • ประคบเย็น การประคบเย็นบริเวณที่บวมหรือปวดจะช่วยบรรเทาอาการอักเสบและอาการเจ็บปวดได้ แนะนำให้ประคบเย็นนาน 20 นาทีต่อครั้ง หลายๆ ครั้งต่อวัน
  • ยกขาสูง การยกขาสูงจะช่วยระบายของเหลวที่สะสมบริเวณหลังเท้า ทำให้อาการบวมลดลง แนะนำให้ยกขาสูงเหนือระดับหัวใจประมาณ 20-30 ซม. นาน 20-30 นาทีหลายๆ ครั้งต่อวัน
  • รับประทานยาแก้ปวด ยาแก้ปวด เช่น ไอบูโพรเฟน หรือพาราเซตามอล จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ แนะนำให้รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกบริเวณหลังเท้า ทำให้ขาแข็งแรงและลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบวมและเจ็บ
Share on: