เป็นหนี้ กยศ. โดนฟ้องยึดทรัพย์

แก้ไขล่าสุด วันที่ 19th August, 2023 at 10:20 pm

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) มีสิทธิฟ้องคดีเพื่อรักษาสิทธิของตน ในกรณีที่ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ไม่ชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินกองทุนฯ โดยกยศ. จะต้องยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง โดยระบุข้อหาว่าผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ผิดสัญญากู้ยืมเงินกองทุนฯ และขอให้ศาลพิพากษาให้ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินกองทุนฯ พร้อมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม

หากศาลพิพากษาให้กยศ.ชนะคดี กยศ. จะสามารถบังคับคดีเอาทรัพย์สินของผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ เพื่อชำระหนี้ได้ โดยวิธีการบังคับคดีของศาลแพ่ง เช่น การยึดทรัพย์ การอายัดทรัพย์ การบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์

ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ มีหน้าที่ต้องชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินกองทุนฯ โดยสามารถชำระหนี้ได้หลายช่องทาง เช่น ชำระผ่านธนาคาร ชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ชำระผ่านตู้เอทีเอ็ม ชำระผ่านระบบออนไลน์ หรือชำระผ่านสำนักงาน กยศ.

ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ที่ไม่ชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินกองทุนฯ จะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย และต้องชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมตามคำพิพากษาของศาล

หากผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ถูกฟ้องคดีและถูกศาลพิพากษาให้ชำระหนี้ แต่ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ สามารถยื่นคำร้องขอผ่อนผันการชำระหนี้ต่อศาลได้ โดยศาลอาจพิจารณาอนุญาตให้ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ผ่อนผันการชำระหนี้ได้ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ

ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ สามารถขอผ่อนผันการชำระหนี้ได้หลายครั้ง โดยผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ จะต้องยื่นคำร้องขอผ่อนผันการชำระหนี้ต่อศาลก่อนวันครบกำหนดชำระหนี้ทุกครั้ง

ในการยื่นคำร้องขอผ่อนผันการชำระหนี้ ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ จะต้องยื่นเอกสารประกอบการยื่นคำร้องขอผ่อนผันการชำระหนี้ ได้แก่

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ
  • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ
  • สำเนาสัญญากู้ยืมเงินกองทุนฯ
  • สำเนาคำพิพากษาของศาล
  • เอกสารแสดงรายได้ของผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ
  • เอกสารแสดงรายจ่ายของผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ

เมื่อผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ยื่นคำร้องขอผ่อนผันการชำระหนี้ต่อศาลแล้ว ศาลจะพิจารณาคำร้องขอผ่อนผันการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ และศาลจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องขอผ่อนผันการชำระหนี้ให้ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ทราบ

หากศาลไม่อนุญาตให้ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ผ่อนผันการชำระหนี้ ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ จะต้องชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาล หากผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาล ศาลอาจออกหมายบังคับคดีเอาทรัพย์สินของผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ เพื่อชำระหนี้ได้

ผู้ค้ำประกันเงินกู้ที่ต้องรับผิดชอบหนี้แทน ขณะนี้กำลังมีการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยแก้ไขให้กองทุนมีอำนาจในการปลดภาระผู้ค้ำประกัน หรือยกเลิกการค้ำประกันของผู้ค้ำประกัน เมื่อผู้กู้ยืมได้ผ่อนชำระเงินต้นมาแล้ว 25% ของเงินต้นที่ค้างชำระ

ไม่ไหว ไม่ต้องปวดหัว ขอผ่อนผันชำระหนี้ได้

ผู้กู้ กยศ. ที่ผ่อนไม่ไหว ไม่ต้องปวดหัวอีกต่อไป เพราะ กยศ. ได้ปรับมาตรการช่วยผ่อนผันชำระหนี้ให้นานขึ้น ด้วยการจ่ายหนี้รายเดือน ไม่ต้องจ่ายรายปี โดยมีมาตรการผ่อนผัน ดังนี้

  1. ปรับโครงสร้างหนี้ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี ผู้กู้จะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ ในการชำระเงินงวดสุดท้ายและจะมีการปรับลดดอกเบี้ยในการชำระเงินงวดสุดท้าย ให้กับผู้กู้ที่ยังไม่ถูกฟ้องดำเนินคดี แต่ถ้าไม่สามารถผ่อนชำระเงินคืนได้ตามสัญญา ผู้กู้สามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ที่ทางแอปฯ กยศ. Connect หรือทางเว็บไซต์กยศ.
  2. ปรับเปลี่ยนลำดับตัดชำระหนี้ ผู้กู้ที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระเงินคืนและยังไม่ถูกฟ้อง จากเดิมที่ใช้วิธีการตัดเบี้ยปรับ ดอกเบี้ย และเงินต้น กองทุนจะปรับเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้ใหม่ โดยจะนำเงินที่ได้รับชำระไปตัดเงินต้น ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับแทน
  3. ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการผ่อนชำระเงินคืน สำหรับผู้กู้ยืมรายใหม่ และผู้กู้ยืมที่อยู่ในระยะปลอดหนี้ ซึ่งยังไม่ครบกำหนดชำระหนี้ จากเดิมที่ผ่อนชำระเป็นรายปี กองทุนจะปรับให้ผ่อนชำระเป็นรายเดือนในอัตราเท่ากันทุกเดือน และเพิ่มระยะเวลาการผ่อนชำระจากเดิมไม่เกิน 15 ปี เป็นไม่เกิน 30 ปี ขึ้นอยู่กับยอดหนี้ของผู้กู้ยืมแต่ละราย ทั้งนี้ในการชำระเงินงวดสุดท้ายผู้กู้ยืมจะต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์

ลูกหนี้ กยศ. ทำอย่างไรไม่ให้ถูกฟ้องดำเนินคดี

มาทำความเข้าใจเงื่อนไขกันก่อนจะถูกฟ้องดำเนินคดี หากผู้กู้ผิดนัดชำระ ไม่ชำระคืนเป็นเวลานาน นอกจากจะต้องจ่ายค่าปรับ และเสียค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังจะถูกฟ้องดำเนินคดีด้วย โดยเกณฑ์ที่ถูกฟ้องร้อง มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้

กรณีที่ 1 – ผู้กู้ยืม กยศ. ค้างชำระหนี้เกินกว่า 4 ปี 5 งวด (1,460 วันขึ้นไป)
กรณีที่ 2 – ผู้กู้ยืม กยศ. พ้นระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้แล้ว แต่ยังมีหนี้ค้างชำระ
กรณีที่ 3 – ผู้กู้ยืม กยศ. กลุ่มไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องคดี (มีหนี้ค้างชำระ)

ถ้าถูกฟ้องดำเนินคดี จะต้องทำอย่างไร

แนวปฏิบัติสำหรับผู้กู้ กยศ. ที่ถูกดำเนินคดี มีอยู่ด้วยกัน 2 กรณี คือ

ผู้กู้ยืมต้องการถอนฟ้อง

ผู้กู้ยืมต้องชำระหนี้ปิดบัญชี พร้อมจ่ายค่าทนาย และส่งหลักฐานการชำระหนี้ปิดบัญชีให้กับกองทุนฯ เพื่อพิจารณาถอนฟ้อง

กรณีผู้กู้ยืมถูกดำเนินคดี ไม่ขอให้ถอนฟ้อง

ผู้กู้ยืมไม่สามารถชำระหนี้เพื่อถอนฟ้องได้

ทางออกของผู้กู้และผู้ค้ำประกันเงินกู้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ มี 2 วิธี คือ

  1. เจรจาไกล่เกลี่ยยอมความในชั้นศาล
    ผู้กู้และผู้ค้ำประกัน ต้องไปตามหมายนัดของศาล เพื่อขอผ่อนชำระหนี้รายเดือนให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 9-15 ปี แต่ถ้าคนใดคนหนึ่งไม่สามารถไปตามนัดหมายได้ ต้องทำหนังสือมอบอำนาจให้คนอื่นที่บรรลุนิติภาวะไปทำแทน
  2. ผู้กู้และผู้ค้ำประกัน ไม่ไปตามหมายนัด
    ในกรณีที่ผู้กู้และผู้ค้ำผิดนัด ศาลจะสั่งพิพากษาชำระหนี้ทั้งจำนวน โดยจะส่งคำบังคับคดีให้ชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน หลังจากได้รับคำสั่งศาล
กรณีผู้กู้ยืมถูกดำเนินคดี ไม่ขอให้ถอนฟ้อง

ลูกหนี้ กยศ. ที่ถูกอายัดทรัพย์ จะต้องทำอย่างไร

หลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้ว ผู้กู้และผู้ค้ำประกันที่ศาลมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้ หรือชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว จะต้องชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่ทำตามคำสั่ง กองทุนฯ จะเข้ามาทำการสืบทรัพย์ และบังคับคดีกับทรัพย์ของผู้กู้ยืมหรือผู้ค้ำประกัน เพื่อนำไปขายทอดตลาด นำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป

ลูกหนี้ที่ถูกอายัดทรัพย์ มีข้อปฏิบัติ ดังนี้

1. ชำระหนี้ปิดบัญชี

ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ทันที หรือชำระหนี้หลังจากถูกยึดทรัพย์/อายัดทรัพย์ แล้วส่งหลักฐานการชำระหนี้ให้กับกองทุนฯ เพื่อแจ้งให้สำนักงานทนายความที่ได้รับมอบหมายระงับการดำเนินคดี ในกรณีนี้อาจมีการจ่ายค่าธรรมเนียม หรือค่าทนายความ

การชำระหนี้ปิดบัญชีหลังจากถูกยึดทรัพย์/อายัดทรัพย์ ผู้กู้ต้องติดต่อสำนักงานทนายความที่ได้รับมอบหมาย เพื่อนัดวันถอนการยึดทรัพย์และบังคับคดี โดยผู้กู้ยืมหรือผู้ค้ำประกัน จะต้องเป็นฝ่ายชำระค่าธรรมเนียมถอน หรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่สำนักงานบังคับคดีเรียกเก็บทั้งหมด

2. ไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดี

หากผู้กู้ยืมหรือผู้ค้ำประกันไม่สามารถชำระหนี้ปิดบัญชี ค่าฤชาธรรมเนียม ค่าทนายความได้ และกองทุนฯ ได้ทำการยึดทรัพย์ไว้แล้ว ผู้กู้ยืมหรือผู้ค้ำประกันสามารถยื่นเรื่องขอไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดี เพื่อผ่อนชำระหนี้ และชะลอการขายทรัพย์ทอดตลาดไว้ชั่วคราวได้ โดยมีขั้นตอน ดังนี้

  1. ติดต่อสำนักงานกองทุนฯ หรือสำนักงานทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากกองทุนฯ เพื่อทำบันทึกข้อตกลงไกล่เกลี่ยในชั้นบังคับคดี
  2. ยื่นคำแถลงของดการบังคับคดีไว้เป็นการชั่วคราว เพื่อชะลอการขายทอดตลาด ที่สำนักงานบังคับคดี ซึ่งจะต้องมีคำสั่งอนุญาตจากเจ้าพนักงานบังคับคดีด้วย
  3. ผ่อนชำระหนี้ตามบันทึกข้อตกลงไกล่เกลี่ย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด
  4. เมื่อชำระหนี้ปิดบัญชี และชำระค่าธรรมเนียมแล้ว จะต้องส่งหลักฐานการชำระหนี้ดังกล่าวให้กับกองทุนฯ เพื่อระงับการดำเนินการบังคับคดี
  5. นัดวันถอนการยึดทรัพย์ โดยติดต่อสำนักงานทนายความผู้ได้รับมอบหมาย เพื่อนัดวันไปถอนการยึดทรัพย์ ถอนการบังคับคดี ที่สำนักงานบังคับคดี
image5

ลูกหนี้ กยศ. ที่ผิดนัดชำระหนี้ จ่ายไม่ตรงเวลา หรือ เบี้ยวชำระหนี้ ไม่ต้องหนี ไม่ต้องกลัวถูกอายัดทรัพย์ เพราะ กยศ. มีมาตรการช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ผ่อนผันการชำระหนีืไม่ต้องเสียประวัติการชำระเงิน ทำให้ไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจนนำไปสู่การยึดทรัพย์ แล้วยังส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในกองทุนที่จะทำให้ผู้กู้รุ่นหลังมีโอกาสในการกู้ยืมเพื่อการศึกษาได้ต่อไปอีกด้วย

Link ที่เกี่ยวข้อง

ติดต่อ กยศ. ผ่านเว็บไซต์โดยตรง

แจ้งความประสงค์ขอปรับโครงสร้างหนี้

ลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้า

Share on: