การไถ่ถอนโฉนดที่ดินจากการกู้โรงงานน้ำตาล สามารถทำได้ดังนี้
- ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้าง
ผู้กู้จะต้องชำระชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างทั้งหมดแก่โรงงานน้ำตาล โดยสามารถชำระเป็นเงินสดหรือเช็คสั่งจ่ายที่ธนาคาร หรือชำระผ่านธนาคารพาณิชย์
- ยื่นคำร้องขอไถ่ถอนโฉนดที่ดิน
ผู้กู้จะต้องยื่นคำร้องขอไถ่ถอนโฉนดที่ดินต่อโรงงานน้ำตาล โดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้าง
- ชำระเงินค่าธรรมเนียม
ผู้กู้จะต้องชำระค่าธรรมเนียมในการไถ่ถอนโฉนดที่ดิน ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 1% ของมูลค่าที่ดิน
- รับโฉนดที่ดินคืน
เมื่อโรงงานน้ำตาลได้รับการชำระเงินครบถ้วนแล้ว จะออกโฉนดที่ดินคืนให้แก่ผู้กู้
เอกสารประกอบในการไถ่ถอนโฉนดที่ดินจากการกู้โรงงานน้ำตาล ได้แก่
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางของผู้กู้
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้
- สำเนาโฉนดที่ดิน
- หนังสือรับรองการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้าง
- เช็คสั่งจ่ายที่ธนาคาร หรือหลักฐานการชำระผ่านธนาคารพาณิชย์
ระยะเวลาในการดำเนินการไถ่ถอนโฉนดที่ดินจากการกู้โรงงานน้ำตาล ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของโรงงานน้ำตาล โดยเฉลี่ยประมาณ 1-2 สัปดาห์
ตัวอย่างการคำนวณค่าธรรมเนียมในการไถ่ถอนโฉนดที่ดินจากการกู้โรงงานน้ำตาล
สมมติว่าผู้กู้มีหนี้สินจากการกู้โรงงานน้ำตาลเป็นเงิน 1 ล้านบาท และชำระชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างทั้งหมดแล้ว 1 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมในการไถ่ถอนโฉนดที่ดินจะอยู่ที่ 1% ของมูลค่าที่ดิน 1 ล้านบาท หรือเท่ากับ 10,000 บาท
ดังนั้น ผู้กู้จะต้องชำระค่าธรรมเนียมในการไถ่ถอนโฉนดที่ดินเป็นเงิน 10,000 บาท
ขั้นตอนการไถ่ถอนโฉนดที่ดินจากการกู้โรงงานน้ำตาล
- ตรวจสอบยอดหนี้สินจากการกู้โรงงานน้ำตาล
ผู้กู้จะต้องตรวจสอบยอดหนี้สินจากการกู้โรงงานน้ำตาล เพื่อทราบว่าต้องชำระชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างเท่าใด
- ชำระชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้าง
ผู้กู้สามารถชำระชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างเป็นเงินสดหรือเช็คสั่งจ่ายที่ธนาคาร หรือชำระผ่านธนาคารพาณิชย์
- ยื่นคำร้องขอไถ่ถอนโฉนดที่ดิน
ผู้กู้จะต้องยื่นคำร้องขอไถ่ถอนโฉนดที่ดินต่อโรงงานน้ำตาล โดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้าง
- ชำระเงินค่าธรรมเนียม
ผู้กู้จะต้องชำระค่าธรรมเนียมในการไถ่ถอนโฉนดที่ดิน ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 1% ของมูลค่าที่ดิน
- รับโฉนดที่ดินคืน
เมื่อโรงงานน้ำตาลได้รับการชำระเงินครบถ้วนแล้ว จะออกโฉนดที่ดินคืนให้แก่ผู้กู้
ข้อควรระวังในการไถ่ถอนโฉนดที่ดินจากการกู้โรงงานน้ำตาล
- ผู้กู้ควรตรวจสอบยอดหนี้สินจากการกู้โรงงานน้ำตาลให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้ชำระชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างมากเกินไป
- ผู้กู้ควรชำระชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เสียค่าธรรมเนียมในการไถ่ถอนโฉนดที่ดิน
- ผู้กู้ควรยื่นคำร้องขอไถ่ถอนโฉนดที่ดินให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการดำเนินการไถ่ถอนโฉนดที่ดิน
หากผู้กู้ไม่สามารถชำระชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างทั้งหมดได้ อาจขอผ่อนชำระกับโรงงานน้ำตาลได้ โดยโรงงานน้ำตาลอาจพิจารณาให้ผ่อนชำระเป็นงวดๆ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของโรงงานน้ำตาล